เมื่อวันที่ 10 ก.พ.61 ที่ห้องอิมพีเรียลแกรนด์บอลรูม โรงแรมดิเอ็มเพรส นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่, นายเหริน ยี่เซิง กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ พร้อมด้วย ,นายชูชีพ พงษ์ไชย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่,นางนวอร เดชสุวรรณ ผอ.อาวุโสธนาคารแห่งแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ,ผศ.ดร.ณพศิษฐ์ จักรพิทักษ์ คณบดี วิทยาลัยนานาชาติ นวัตกรรมและดิจิตอล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนายกสมาคมธุรกิจไทย-จีน เชียงใหม่ ได้ร่วมเสวนาการค้าการลงทุนระหว่างจีนกับภาคเหนือ ซึ่งหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่และสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันจัดขึ้น
นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนของหอการค้าเชียงใหม่ ได้ดำรงบทบาทในการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของสมาชิก ตลอดจนสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ ตลอดระยะเวลา 40 ปี ที่ผ่านมา ทั้งในด้านการมีบทบาทชี้นำ และร่วมกำหนดนโยบายสาธารณะ รวมถึงจัดโครงการที่ส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และสังคม มาอย่างต่อเนื่อง โดยในสมัยที่ 21 พ.ศ. 2560-2561 ได้กำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่าจะเป็น “องค์กรเข้มแข็ง สมาชิกยั่งยืน ฟื้นเศรษฐกิจเชียงใหม่สู่ยุคดิจิตอล” กล่าวอีกว่า สิ่งที่หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ มองว่าประโยชน์ที่ภาคเหนือจะได้รับจากยุทธศาสตร์นี้มี 5 ด้านคือ
1.) การเชื่อมโยงด้านการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ที่จะมีการเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟ รถไฟความเร็วสูง สนามบิน ตลอดจนการสนับสนุนด้านการเงินผ่าน ธนาคารการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank- AIIB) และกองทุนเส้นทางสายไหม (Silk Road Fund)
2.) การเชื่อมโยงด้านข้อมูลและดิจิตอล ซึ่งจีนมีนโยบายด้าน Internal Plus และ Information Highway หรือทางด่วนข้อมูลข่าวสารที่สอดคล้องกับเราที่มุ่งสู่การเป็น Digital Economy และ Smart City
3.) การพัฒนาเศรษฐกิจด้านบุคลากร และนักธุรกิจ ซึ่งไทยและจีนมีเป้าหมายในการพัฒนาผู้ประกอบการ Start Up รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจท้องถิ่น และการใช้ประโยชน์จากช่องทางการค้าใหม่ ๆ
4.) การเชื่อมโยงด้านนโยบาย ซึ่งหลายด้านไปในทิศทางเดียวกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องการนำนวัตกรรมและดิจิทัลมาใช้ในการเพิ่มมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจ และ
5.) การเชื่อมโยงระหว่างประชาชน ซึ่งประเด็นนี้สำคัญ เนื่องจากเชียงใหม่มีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนมาในอัตราที่สูง ซึ่งจำเป็นที่จะต้องสร้างกระบวนการแลกเปลี่ยนเชิงวัฒนธรรม มิติทางสังคมร่วมกัน รวมถึงให้เกิดการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาด้วย
โดยสรุปแล้วเป้าหมายที่ชัดเจนของหอการค้าฯ ในสมัยนี้คือการเร่งกระบวนการ Branding เมืองเชียงใหม่สู่เมือง Marketplace ผ่าน Platform ดิจิตอล และการเชื่อมโยงตลาดต่างประเทศ เนื่องจากหอการค้าฯ เห็นว่าอนาคตการค้าจะไร้พรมแดนมากขึ้น และมีระบบเทคโนโลยีในรูปแบบ Smart City ที่จะเอื้อให้เชียงใหม่มีความพร้อมในการเป็นเมืองที่สร้างสรรค์และมุ่งสู่การเป็นพื้นที่ทางการตลาดได้
การเร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ เพื่อจะได้สอดคล้องกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านและจีน รวมถึงการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่ซึ่งได้นำเสนอต่อ นายกรัฐมนตรีของไทยแล้วได้แก่
-
โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ- เชียงใหม่
-
เร่งรัดการพัฒนาสนามบินนานาชาติเชียงใหม่
-
เร่งรัดแผนการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่
-
โครงการมอเตอร์เวย์เชียงใหม่-เชียงราย
-
โครงการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
ที่มาข่าวจาก
http://www.northpublicnews.com